เก้าอี้สำนักงานเพื่อสุขภาพ นวัตกรรมเพื่อผ่อนคลายร่างกายขณะทำงาน

ชาวออฟฟิศ ใช้เวลาอย่างต่ำ 8 ชั่วโมงต่อวันในการนั่งทำงานอยู่หน้าจอ ปัญหาหลักที่ตามมาก็มักจะเป็นปัญหาสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น ปวดต้นคอ ปวดหลัง ปวดไหล่ ไปจนถึงออฟฟิศซินโดรม ซึ่งสาเหตุนอกจากจะเป็นการนั่งทำงานนาน ๆ แล้ว การนั่งบนเก้าอี้ที่ไม่รองรับสรีระก็ส่งผลให้รู้สึกปวดเมื่อยและไม่สบายตัวขณะนั่งทำงานได้เหมือนกัน การเลือกเก้าอี้สำนักงานที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก

ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้หลายคนมองหาเก้าอี้สำนักงานเพื่อสุขภาพ ที่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องทำงานเป็นเวลานาน ในบทความนี้เราจึงจะมาอธิบายถึงความสำคัญของการใช้งานเก้าอี้สำนักงานเพื่อสุขภาพ พร้อมแนะนำเก้าอี้สำนักงานที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้กัน

ปัญหาสุขภาพจากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน

การนั่งทำงานเป็นเวลานานส่งผลเสียต่อร่างกายหลายอย่าง เช่น อาการปวดกล้ามเนื้อและข้อต่อ ปวดหลัง ปวดเอว ปวดคอ บ่า ไหล่ และปวดศีรษะ ที่สำคัญ การนั่งทำงานนาน ๆ จะทำให้อัตราการเผาผลาญพลังงานต่ำ ร่างกายสะสมไขมันมากขึ้นและตอบสนองต่ออินซูลินได้น้อยลง ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ส่งผลให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ไม่ดี เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดรวมถึงโรคอ้วนได้อีกด้วย

ปัญหาเหล่านี้เกิดจากการที่ร่างกายอยู่ในท่าทางเดิมนาน ๆ กล้ามเนื้อไม่ได้รับการเคลื่อนไหวอย่างเต็มที่ ส่งผลให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวกจึงเกิดอาการปวดเมื่อยตามมา ซึ่งนอกจากปัญหาทางร่างกายแล้ว การนั่งทำงานนาน ๆ ยังส่งผลต่อสภาพจิตใจได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ความเครียดสะสม อาการวิตกกังวล และมีภาวะซึมเศร้าได้

เก้าอี้สำนักงานเพื่อสุขภาพ มีความสำคัญอย่างไร?

เก้าอี้สำนักงานเพื่อสุขภาพ หรือ เก้าอี้ทำงาน Ergonomic คือ เก้าอี้ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ เพื่อรองรับสรีระของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณหลัง คอ และไหล่ ช่วยให้ผู้ใช้นั่งทำงานได้อย่างถูกต้อง ลดความเสี่ยงในการเกิดอาการปวดเมื่อยรวมถึงปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่นั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ผู้ที่มีอาการปวดหลัง ปวดคอ หรือเมื่อยล้าจากการนั่งทำงาน รวมถึงผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพและป้องกันปัญหาสุขภาพจากการนั่งทำงานนาน ๆ โดยความสำคัญของเก้าอี้สำนักงานเพื่อสุขภาพ ได้แก่

• ป้องกันอาการปวดเมื่อย
  เก้าอี้สำนักงานที่มีการออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระของผู้ใช้งานโดยเฉพาะ จะทำให้กระดูกสันหลังอยู่ในท่าที่ถูกต้อง จึงทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย ลดอาการปวดหลัง ปวดคอ ปวดไหล่ 
  
  
• เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
  เมื่อนั่งทำงานได้อย่างสบายมากขึ้น ไร้กังวลเรื่องอาการปวดเมื่อย จะทำให้เรามีสมาธิจดจ่ออยู่กับงานมากขึ้น ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้เป็นอย่างดี
   
• ส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว
  นอกจากจะช่วยลดอาการปวดเมื่อยจากการนั่งทำงานแล้ว การเลือกเก้าอี้สำนักงานเพื่อสุขภาพ ยังส่งผลดีต่อสุขภาพของเราในระยะยาวด้วย ป้องกันการเกิดภาวะต่าง ๆ เช่น โรคหมอนรองกระดูกทับเส้น หรือออฟฟิศซินโดรม เป็นต้น
  
  
• เสริมบุคลิกภาพ
  การฝึกนั่งหลังตรงจนเกิดความเคยชิน จะช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีให้กับผู้ใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนั่งทำงานในออฟฟิศ จะทำให้ภาพรวมของพนักงานดูเป็นมืออาชีพขึ้น
  
  
• มีความคุ้มค่า
  แม้เก้าอี้สำนักงานเพื่อสุขภาพบางรุ่นจะมีราคาสูงกว่าเก้าอี้สำนักงานทั่วไป แต่เก้าอี้ที่มีการออกแบบโดยเฉพาะนั้นจะมีเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ ใช้งานได้ยาวนาน ซึ่งคุ้มค่าในระยะยาว

จุดเด่นสำคัญของเก้าอี้สำนักงานเพื่อสุขภาพ มีอะไรบ้าง?

โดยปกติแล้ว เก้าอี้สำนักงานแบบทั่วไปและเก้าอี้สำนักงานเพื่อสุขภาพ จะมีลักษณะที่คล้ายกัน แต่มักจะมีฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกัน โดยจุดเด่นสำคัญของเก้าอี้สำนักงานเพื่อสุขภาพ ได้แก่

• สามารถปรับระดับความสูง-ต่ำของเก้าอี้ เบาะรองนั่ง พนักพิง และที่วางแขน เพื่อให้เหมาะกับสรีระของผู้ใช้งานได้
  
• สามารถปรับระดับเอน-นอนได้ ช่วยให้ผ่อนคลายในระหว่างวัน
• เบาะรองนั่งมีความนุ่ม หนาแน่นและยืดหยุ่นสูง นั่งสบาย ไม่ยุบตัวง่าย ลดอาการเมื่อยล้าบริเวณสะโพกและต้นขา รองรับน้ำหนักได้ดี และสามารถระบายอากาศได้
  
• มีการเลือกใช้วัสดุคุณภาพดี นุ่มสบาย ทนทาน
• เก้าอี้บางรุ่นมีอาจฟังก์ชันพิเศษ เช่น มีปุ่มนวด มีที่วาง Notebook หรือ IPad ไว้ในตัว หรือสามารถพับเก็บได้เมื่อไม่ใช้งาน
• หมุนได้ 360 องศา ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเคลื่อนไหวได้สะดวก ไม่ต้องลุกขึ้นบ่อยๆ

เทคนิคการเลือกซื้อเก้าอี้สำนักงานเพื่อสุขภาพที่เหมาะสม

หากคุณไปเลือกซื้อเก้าอี้ทำงานจากร้านต่าง ๆ จะรู้ได้อย่างไรว่าเก้าอี้ตัวนั้น เป็นเก้าอี้สำนักงานเพื่อสุขภาพที่แท้จริง เพื่อลดการเสียเวลา เรามาดูเทคนิคการเลือกซื้อเก้าอี้สำนักงานเพื่อสุขภาพที่ถูกต้องและเหมาะสมสำหรับการใช้นั่งทำงานเป็นเวลานานกันได้เลย

1. พิจารณาขนาดและสรีระ
   เลือกเก้าอี้สำนักงานเพื่อสุขภาพมีขนาดเหมาะสมกับสรีระของผู้ใช้ ควรปรับระดับความสูงได้อย่างน้อย 40-50 ซม. เพื่อให้รองรับสรีระของผู้ใช้งานได้อย่างเหมาะสม เท้าควรวางราบไปกับพื้น ข้อเท้าทำมุม 90 องศา และเข่างอ 90-100 องศา
   
   
2. พิจารณาคุณสมบัติของเบาะนั่ง พนักพิง และที่วางแขน
   เบาะรองนั่งควรมีความหนาแน่นพอที่จะรองรับน้ำหนักและกระจายแรงกด และควรมีผิวสัมผัสที่ระบายอากาศได้ดี ไม่ร้อนหรืออับชื้น พนักพิงของเก้าอี้ควรมีความสูงพอที่จะรองรับช่วงหลังส่วนล่างถึงคอ มีการรองรับช่วงเอวเพื่อลดอาการปวดหลัง และควรมีระบบปรับเอนไปด้านหลังเพื่อให้ผ่อนคลาย และที่วางแขนควรปรับความสูงได้เพื่อให้แขนอยู่ในระดับที่สบาย
   
   
3. เลือกวัสดุที่มีคุณภาพ
   เลือกเก้าอี้ที่ทำจากวัสดุที่มีคุณภาพดี มีความแข็งแรง ทนทาน และระบายอากาศได้ดี วัสดุที่ใช้ทำเก้าอี้ควรมีความทนทาน เช่น หนัง PU โพลียูรีเทน พลาสติก ABS และควรเลือกเก้าอี้ที่มีล้อเลื่อนเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย
   
   
4. เลือกราคาที่เหมาะสม
   สุดท้าย ควรเลือกเก้าอี้สำนักงานเพื่อสุขภาพ ที่มีราคาเหมาะสมกับคุณภาพของเก้าอี้และงบประมาณที่เรามี ไม่ควรถูกหรือแพงจนเกินไป

อย่าปล่อยให้เก้าอี้ทำงานตัวเก่าทำร้ายสุขภาพของคุณ เปลี่ยนมาใช้เก้าอี้สำนักงานเพื่อสุขภาพ เพื่อช่วยปรับเปลี่ยนอิริยาบถในการนั่งทำงานให้เหมาะสม ส่งผลดีต่อสุขภาพ ลดอาการเมื่อยล้าจากการทำงาน อย่าให้งานที่หนักอึ้งมาทำร้ายกระดูกสันหลังของเรา เลือกเก้าอี้ในสไตล์ที่ตอบโจทย์แล้วไปทดลองใช้งานกันได้เลย

หากคุณกำลังมองหาเก้าอี้สำนักงานเพื่อสุขภาพ แนะนำที่ PROFLEX INDUSTRIAL CO.,LTD. ผู้ผลิต จำหน่ายและนำเข้าเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน (Office Furniture) ที่มีความเชี่ยวชาญในเฟอร์นิเจอร์สำนักงานตามสั่ง ทั้งโต๊ะผู้บริหารและชุดโต๊ะสำนักงานที่ทันสมัย รวมทั้งเก้าอี้สำนักงานเพื่อสุขภาพที่มีการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ โดยมีแนวโน้มการออกแบบและติดตั้งตามบริษัทชั้นนำของยุโรป ด้วยความรู้ในอุตสาหกรรมมานานหลายปี เฟอร์นิเจอร์สำนักงานดีไซน์สวย ราคาไม่แพง มาพร้อมกับการดูแลหลังการขายอย่างมืออาชีพ